Review : X-Men : First Class อยู่ข้างกัน แต่คนละจุดหมาย


 "ความเหมือนที่แตกต่าง" อาจเป็นประโยคนี้อาจใช้ได้ดีกับหนังเรื่องนี้

        หนังเล่าถึงจุดกำเนิดของX-Men และเรื่องราวก่อนที่ Charles Xavier และ Erik Lensherr จะกลายมาเป็นชื่อ Professor X และ Magneto ซึ่งเป็นเรื่องราวสมัยที่ทั้งคู่ยังไม่มาเป็นศัตรูคู่อาฆาตกัน โดยมีศัตรูอย่าง เซบาสเตียน ชอว์ ที่หวังจะทำให้มนุษย์เริ่มสงครามโลกครั้งที่สาม ประมาณนั้น 

(เนื้อหาถัดไปอาจเปิดเผยเรื่องราวในหนัง)

       ต้องยอมรับก่อนเลยว่าโดยปกติแล้วไม่ใช่สาวกด X-Men แต่อย่างใด และขอยอมรับอีกว่าที่ดูหนังเรื่องนี้เพราะว่าผู้กำกับใหม่คนนี้คือผู้สร้าง "ไอ้ชุดเขียวหน้าปลาบู่ชนเขื่อน" Kick Ass นั่นเอง และขอยอยมรับอีกข้อเพราะว่าชอบพระเอกลูกโค้งจาก "Wanted"(เจมส์ แม็คอะวอย) นั่นเอง แต่!! (เดี๋ยวแฟนคลับ X-Men อาฆาต)
      ต้องบอกว่าของเค้าดีจริง เริ่มแรกหนังเปิดตัวที่มาของตัวละครหลักแต่ละตัวอย่างไม่ยัดเยียด ให้รู้สึก และมีน้ำหนักที่ดี การทำให้เห็นจุดกำเนิดความแค้นของ Erik Lensherr  หรือ Macneto ที่ค่ายกักกัน ซึ่ง เซบาสเตียน ชอว์ นั่นเองที่ฆ่าแม่ของเขา ดังนั้น เขาจึงตามล่าผู้ที่ปลิดชีพมารดา (แม้ว่าเหตุจะมาจากตนก็เถอะ)


     ส่วนชาร์ลส์ เซเวียร์ ผู้มีพลังจิตนั้น เข้าร่วมช่วยเหลือ FBI ในการตามล่า เซบาสเตียน ชอว์  จนทำให้ได้พบกับอีริก ทั้งสองได้รวบรวมกองทัพกลายพันธุ์ และกลายเป็นเพื่อนรักกัน หนังดำเนินไปได้อย่างน่าติดตาม แม้ฉากแอคชั่นจะไม้ได้จัดหนักเหมือนภาคก่อนๆ แต่เมื่อจัดแล้วไซร้ ก็ไม่ผิดหวังแล บทหนังมีความฉลาดในการใช้ประโยชน์จากช่วงของการเกิดสงครามเย็น ซึ่งช่างเหมาะเหม็งการการต่อสู้ทั้งจากพวกกลายพันธุ์กันเอง และมนุษย์ที่คอยล่าพวกเขา 


   ถ้าจะพูว่าหนังเรื่องนี้ไม่ใช่หนังซุปเปอร์ฮีโร่นั้น อาจใกล้เคียง (คงเพราะมีชาร์ลส์อยู่ในเรื่องแหละ) เพราะตัวหนังไม่ได้นั้นให้ตัวละครแต่ละตัวดัเด่ มีคุณธรรมอะไรมากมาย ทุกๆตัวล้วนมีปมของแต่ละคน
 1.อีริค เพราะความเสียใจที่ตัวเองที่สามารถเรียกพลังออกมาได้ จึงทำให้แม่ของเขาตาย จึงต้องล้างแค้น
 2.แฮงค์ แม็คคอย ผู้อัจริยะปราดเปรื่อง แต่มีเท้าเป็นมือ และ ซึ่งหาตัวยาที่ทำให้ตนเองกลับเป็นปกติ โดยไม่ต้องหลับซ่อน 

 3.ดร. มอยร่า แม็คแท็กเคิร์ท เอฟบีไอสาว ผู้ที่ต้องทำงานเพื่อลบคำสบประหม่าในความเป็นหญิง
 4.มีสทิก สาวตัวสีน้ำเงินผมแดง ผู้ต้องการการยอมรับจากรูปลักษณ์ของตน

และชาร์ลส์กับอีริค ซึ่งได้ร่วมต่อสู้ ฝึกฝนมาด้วยกัน สุดท้ายกลับต้องยืนคนละข้างกัน อันมาจากอุดมการณ์ที่ใช้หน่วยวัดเดียวกัน แต่สิ่งที่ใช้ตัดสินไม่เท่ากัน (เข้ากันแท้กับสังคมไทยสมัยนี้) จึงทำให้เพื่อนรัก กลับกลายเป็นศัตรูกัน เพียงเพราะทัศนะในการมองต่างกัน


     ฉากสุดจิ๊ด คงเป็นฉากที่ชาร์ลส์ฝึกอีรีคใช้พลังบังคับเครื่องส่งสัญญาณแหละ ที่สอนให้อีรีคใช้พลังจากด้านที่ดี แทนพลังจากความแค้นและความโกรธ ซึ่งเป็นฉากที่ประทับใจที่สุดสำหรับเรื่องนี้ (รองจากฉากบนชายหาดหลังจากที่ฬฬ ปั้งงงง!!!)
ตัวละครสุดจิ๊ด อีริค หรือ แม็คนีโต้ นั่นเอง เพราะแกทั้งโกรธและร้องให้ในเวลาเดียวกันด้วยดวงตาอันทรงพลัง และต้องยกความดีความชอบให้ แม็กอะวอยที่เล่นได้ถึง และเข้าขากันได้ดีจริง

     สรุป   สังเกตุกันไหมว่าช่วงหลังๆมานี่ หนังซูปเปอร์ฮีโร่ฮิตเข้าสู่ด้านมืดกันจริง คงเพราะ Batman Begins ของพ่อคริสเขาแหละนำเทรนด์ แล้วก็มี Watchmen และสุดๆคงต้อง The Dark Knight แหละ 
    แม้เป็นหนังซูปเปอร์ฮีโร่ แต่ผู้กำกับ "เตะตูด"(Kick Ass) ซะอย่าง มันต้องมีตลกร้ายๆ กัดจิกเจ็บๆซะหน่อย ซึ่งหนังออกมาดูดี และมีคลาสอย่างไม่น่าเชื่อ (ซึ่งเทียบกับฮีโร่กล้ามช่างไม้ Thor ซึ่งดีแล้วแท้ๆ กับมาเสียตรงที่พยายามรวมเรื่องให้เข้ากับ The The Avengers นี่น่า มันน่าเสียดา) ทำให้ X-Men : First Class เป็นที่น่าจดจำอีกเรื่อง และแอบหวังว่า ภาคต่อถ้าได้คนเขียนบท และผู้กำกับชุดเดิม X-Men อาจกลายเป็นอีกหนึ่งหนังในดวงใจใครอีกหลายๆคน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น